ดัชนี Fear & Greed แตะระดับ‘กลัวถึงขีดสุด’ นักลงทุนต้องทำไง?

2025-03-06 | Fear & Greed Index , คริปโตเคอร์เรนซี , ดัชนีแห่งความกลัวและโลภ , บทความวิเคราะห์ตลาด , บทความวิเคราะห์ตลาดรายสัปดาห์

Fear & Greed Index จาก CNN หรือเรียกอีกชื่อว่า ดัชนีแห่งความกลัวและโลภ เพิ่งแตะระดับ “Extreme Fear” หรือกลัวถึงขีดสุด ส่งผลให้นักลงทุนกำลังอยู่ในโหมดเทขายเต็มตัว ความต้องการเสี่ยงหายไป หุ้นและคริปโตตกลงอย่างต่อเนื่อง เงินทุนไหลออกอย่างรวดเร็ว หากคุณอยู่ในตลาดมานานมากพอ จะเข้าใจว่าสิ่งนี้หมายถึงอะไร 

ดัชนีแห่งความกลัวและโลภ (Fear & Greed Index) คือเครื่องมือที่ใช้วัดอารมณ์ของตลาดว่าตอนนี้อยู่ในสถาการณ์แบบไหน ซึ่งตอนนี้ถึงจุดที่ความกลัว (Extreme Fear) ที่เข้าครอบงำตลาด แต่มักจะเปิดโอกาสให้เกิดการลงทุนครั้งใหญ่ แต่คำถามถัดไปคือจังหวะไหนที่ควรจะเข้า? เรามาลองวิเคราะห์ถึงปัจจัยที่ทำให้เกิดแรงเทขาย และแหล่งเงินมหาศาลจะไปรออยู่ตรงไหน

เรียกว่านี่ไม่ได้เกิดจากปัจจัยเดียว แต่คือมรสุมอย่างหนัก 

  • สงครามการค้าและกำแพงภาษี: สหรัฐฯ และจีนกลับมาเล่นเกมเศรษฐกิจอีกครั้ง การตั้งกำแพงภาษี มาตรการคว่ำบาตร และปัญหา Supply Chain ทำให้ตลาดตึงเครียด สหรัฐฯประกาศภาษีนำเข้า 25% สำหรับสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโก มีผลตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้นักลงทุนทั้งหลายตื่นตระหนก เพราะเมื่อใดที่ 2 ยักษ์ใหญ่แห่งเศรษฐกิจปะทะกันทั้งตลาดก็จะลุกเป็นไฟ  
  • การลดงบประมาณของ DOGE: การปรับลดงบประมาณในหน่วยงานสำคัญของรัฐบาล ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจ นักลงทุนกลัวว่าการใช้จ่ายที่ลดลงจะทำให้การเติบโตช้าลงและตลาดก็ตอบสนองเรื่องนี้ 
  • การเทขายในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงครั้งใหญ่ : หุ้นหรือคริปโตต่างก็ร่วงทั้งนั้น แม้แต่สินค้าโภคภัณฑ์ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ตอนนี้ตลาดกลายเป็นโหมดไร้ความเสี่ยง  

ท่ามกลางความปั่นป่วนนี้ ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่แข็งแกร่ง 

กองทุน ETF ทองคำ มียอดเงินไหลเข้าสูงสุดในประวัติศาสตร์

นักลงทุนกำลังหนีเข้าสู่ความปลอดภัย ราคาทองพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว และกองทุน ETF ทองคำมียอดไหลเข้าทะลุ 4.38 พันล้านดอลลาร์

ทำไมกัน? เพราะเวลาที่ตลาดตื่นกระหนก หรือปันผวนแบบนี้ สินทรัพย์ปลอดภันอย่างทองก็จะพุ่งสูงขึ้น เมื่อเงินไหลออกจากหุ้นและคริปโต ทองก็จะเปรียบเสมือนฟองน้ำที่ดูดซับเงินเหล่านั้นเอาไว้ และนี่ไม่ใช่แค่การหลบไปยังจุดปลอดภัย แต่นี่คือการเตรียมตัวรับมือกับความผันผวนข้างหน้า 

Fear & Greed Index จาก CNN ถึงจุดต่ำสุดหรือ Extreme Fear

คือหนึ่งในสัญญาณของความย้อนแย้งที่ทรงพลังที่สุด เพราะว่าตลาดเต็มไปด้วยอารมณ์ล้วนๆ 

  • เมื่อทุกคนโลภ คนก็แห่กันเข้าซื้อ ราคาอาจสูงเกินจริง  
  • เมื่อทุกคนกลัว คนก็แห่กันขาย ราคาอาจต่ำกว่าตลาดเกินไป  

ในอดีตที่ผ่านมา เราจะเห็นว่านี่คือจุดที่นักลงทุนเริ่มมองหาโอกาสจาก “Extremely Fear” เหมือนสถาการณ์ตอนนี้  

  • ช่วงเดือนมีนาคม 2020: COVID ระบาด ตลาดดิ่งหนัก ดัชนีความกลัวไปแตะลงไปที่จุดต่ำสุด ไม่กี่เดือนต่อมา หุ้นและคริปโตเหมือนกระทิงที่ย่อตัวและพุ่งทะยานขึ้นไปอย่างบ้าคลั่งในประวัติศาสตร์ 
  • ช่วงปลายปี 2022: FED ขึ้นดอกเบี้ยอย่างหนัก ตลาดพัง ความเชื่อมั่นก็ลดลง ไม่กี่เดือนผ่านไป S&P500 เด้งกลับไปมากกว่า 50%  
  • ช่วงต้นปี 2023: ราคา Bitcoin อยู่ที่ 16k ดอลลาร์ และคนเชื่อว่าตลาดคริปโตจบแล้ว หนึ่งปีต่อมา ราคา Bitcoin พุ่งไปถึง 50k ดอลลาร์  

เห็น Pattern อะไรไหม? ความกลัวสามารถสร้างโอกาสได้  

ทวีตของทรัมป์ สั่นสะเทือนตลาดคริปโต 1 ทวีต = เงินไหลเข้า 3 แสนล้านดอลลาร์

อยู่ๆ ทรัมป์ก็ทวีตโพสต์เดียว เงินกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์ ไหลเข้าสู่ตลาดคริปโตภายในไม่กี่นาที Bitcoin ทะยานขึ้น Ethereum พุ่งตาม Altcoins ระเบิด นักลงทุนที่ Short ตลาดขาดทุนหนัก 

นี่แสดงให้เห็นว่าตลาดสามารถเปลี่ยนจากความกลัวเป็นความสุขได้ในพริบตา และถ้าทวีตเดียวสามารถกระตุ้นให้เกิดแรงซื้อได้ขนาดนี้ และอะไรจะเกิดขึ้นหากมีเงินลงทุนจากสถาบันไหลเข้าจริงๆ? 

ความกลัวไม่ได้อยู่เสมอไป คำถามคือ คุณจะเตรียมตัวอย่างไร?  นี่คือสิ่งที่นักลงทุนอย่างฉลาดกำลังจับตามอง: 

  • นักลงทุนสายสวนกระแส กำลังเตรียมตัวรอการกลับตัวของตลาด : หากการเทขายฉะลอตัวลง คาดว่าจะมีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว จากประวัติศาสตร์ การเข้าซื้อช่วงคนกลัวขั้นสุด ถือเป็นกลยุทธ์ที่ดี  
  • มองหาสินทรัพย์ที่ถูกขายต่ำกว่ามูลค่าจริง : บางสินทรัพย์กำลังอยู่ในช่วงราคาขายทิ้ง แต่ไม่ใช่ทุกอย่างที่ลดราคาจะเป็นโอกาสซื้อ เพราะฉะนั้นต้องศึกษาให้ดีก่อน หุ้นและคริปโตบางตัวอาจถูกกดราคาต่ำเกินไป 
  • คริปโตยังเป็นท่าไม้ตายสำคัญ : ทวีตของทรัมป์แสดงให้เห็นว่าตลาดสามารถขับเคลื่อนด้วยเรื่องราวและแนวโน้มใหม่ๆ หากนโยบายของรัฐบาลเอื้อต่อคริปโต อาจมีแนวโน้มขาขึ้น 

เมื่อความกลัวครอบงำตลาด นี่คือช่วงเวลาที่นักลงทุนสามารถใช้กลยุทธ์เทรดเพื่อทำกำไรได้ แต่ต้องมีวินัยในการรับมือกับความผันผวน 

ความกลัวอาจทำให้รู้สึกแย่ แต่ประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นว่าช่วงเวลาแห่งความกลัวมักเป็นจุดกำเนิดของโอกาสครั้งใหญ่ คำถามคือ คุณพร้อมหรือยังที่จะใช้ประโยชน์จาก Fear & Greed Index? 

อ่านบทความวิเคราะห์ตลาดจาก Doo Prime ได้ที่นี่


การเปิดเผยความเสี่ยง 
หลักทรัพย์ ฟิวเจอร์ส CFD และผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ มีความเสี่ยงสูงเนื่องจากความผันผวนของมูลค่าและราคาของเครื่องมือทางการเงินพื้นฐาน เนื่องจากความเคลื่อนไหวของตลาดที่ไม่พึงประสงค์และคาดเดาไม่ได้ อาจเกิดการขาดทุนมากกว่าการลงทุนเริ่มต้นของท่านในระยะเวลาอันสั้น    
โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าท่านเข้าใจความเสี่ยงของการซื้อขายกับเครื่องมือทางการเงินแต่ละประเภทอย่างถ่องแท้ก่อนทำธุรกรรมกับเรา หากท่านไม่เข้าใจความเสี่ยงดังที่ได้อธิบายไว้ในนี้ ควรขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญอิสระ 

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ   
ข้อมูลที่ปรากฏในบล็อกนี้มีไว้เพื่ออ้างอิงทั่วไปเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาให้เป็นคำแนะนำการลงทุน ข้อเสนอแนะ คำเชิญ หรือการเสนอขายหรือซื้อเครื่องมือทางการเงินใดๆ ทั้งนี้ไม่ได้พิจารณาถึงวัตถุประสงค์การลงทุนหรือสถานการณ์ทางการเงินเฉพาะของผู้รับข้อมูลแต่ละราย ผลการดำเนินงานในอดีตไม่สามารถเป็นตัวบ่งชี้ที่เชื่อถือได้สำหรับผลการดำเนินงานในอนาคต Doo Prime และบริษัทในเครือไม่ให้การรับรองหรือรับประกันใดๆ เกี่ยวกับความถูกต้องหรือความสมบูรณ์ของข้อมูลนี้ และไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากการใช้ข้อมูลนี้หรือลงทุนตามข้อมูลดังกล่าว  
กลยุทธ์ที่กล่าวถึงข้างต้นสะท้อนถึงความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญและมีไว้เพื่อการอ้างอิงเท่านั้น ไม่ควรใช้หรือพิจารณาเป็นพื้นฐานในการตัดสินใจซื้อขายหรือคำเชิญชวนให้เข้าทำธุรกรรมใดๆ Doo Prime ไม่รับรองความถูกต้องหรือความครบถ้วนของรายงานนี้และปฏิเสธความรับผิดใดๆ ต่อความเสียหายที่เป็นผลมาจากการใช้รายงานนี้ คุณไม่ควรพึ่งพารายงานนี้แต่เพียงอย่างเดียวเพื่อทดแทนการตัดสินใจของคุณเอง ตลาดมีความเสี่ยงเสมอ และการลงทุนควรใช้ความระมัดระวัง 

วิเคราะห์ตลาดเชิงลึกIconBrandElement

article-thumbnail

2025-03-06 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

ดัชนี Fear & Greed แตะระดับ‘กลัวถึงขีดสุด’ นักลงทุนต้องทำไง?

Fear & Greed Index จาก CNN หรือเรียกอีกชื่อว่า ดัชนีแห่งความกลัวและโลภ เพิ่งแตะระดับ “Extreme Fear” หรือกลัวถึงขีดสุด ส่งผลให้นักลงทุนกำลังอยู่ในโหมดเทขายเต็มตัว ความต้องการเสี่ยงหายไป หุ้นและคริปโตตกลงอย่างต่อเนื่อง เงินทุนไหลออกอย่างรวดเร็ว หากคุณอยู่ในตลาดมานานมากพอ จะเข้าใจว่าสิ่งนี้หมายถึงอะไร  ดัชนีแห่งความกลัวและโลภ (Fear & Greed Index) คือเครื่องมือที่ใช้วัดอารมณ์ของตลาดว่าตอนนี้อยู่ในสถาการณ์แบบไหน ซึ่งตอนนี้ถึงจุดที่ความกลัว (Extreme Fear) ที่เข้าครอบงำตลาด แต่มักจะเปิดโอกาสให้เกิดการลงทุนครั้งใหญ่ แต่คำถามถัดไปคือจังหวะไหนที่ควรจะเข้า? เรามาลองวิเคราะห์ถึงปัจจัยที่ทำให้เกิดแรงเทขาย และแหล่งเงินมหาศาลจะไปรออยู่ตรงไหน อะไรที่ทำให้ตลาดผันผวนหนัก?   เรียกว่านี่ไม่ได้เกิดจากปัจจัยเดียว แต่คือมรสุมอย่างหนัก  “ทอง” ยังเป็นสินทรัพย์เดียวที่ยังแข็งแกร่ง   ท่ามกลางความปั่นป่วนนี้ ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่แข็งแกร่ง  นักลงทุนกำลังหนีเข้าสู่ความปลอดภัย ราคาทองพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว และกองทุน ETF ทองคำมียอดไหลเข้าทะลุ 4.38 พันล้านดอลลาร์ ทำไมกัน? เพราะเวลาที่ตลาดตื่นกระหนก หรือปันผวนแบบนี้ สินทรัพย์ปลอดภันอย่างทองก็จะพุ่งสูงขึ้น เมื่อเงินไหลออกจากหุ้นและคริปโต ทองก็จะเปรียบเสมือนฟองน้ำที่ดูดซับเงินเหล่านั้นเอาไว้ และนี่ไม่ใช่แค่การหลบไปยังจุดปลอดภัย […]

article-thumbnail

2025-03-05 | ข้อมูลเชิงลึก

‘หุ้นกลุ่มกลาโหม’ สหรัฐร่วงหนักหลังทรัมป์เน้นสันติภาพแทนสงคราม

หุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ หรือเรียกกันอีกชื่อว่า “หุ้นกลุ่มกลาโหม” ของสหรัฐกำลังได้รับผลกระทบ นักลงทุนต่างจับตามองอย่างใกล้ชิด หลังจากทรัมป์ประกาศยุติสงครามที่ยืดเยื้อมานาน   ช่วงเวลาที่ผ่านมา หลายบริษัทที่เกี่ยวกับด้านการป้องกันประเทศอยู่ในช่วงขาขึ้นจากความขัดแย้งทั่วโลก แต่ตอนนี้เมื่อทรัมป์หันมาให้คำมั่นว่าจะลดการแทรกแซงทางทหาร ทำให้สถานการณ์ในตลาดตอนนี้เปลี่ยนไปยังไงบ้าง? มาอ่านต่อกัน  ทำไมหุ้นกลุ่มกลาโหมสหรัฐถึงร่วง?   อุตสาหกรรมป้องกันประเทศได้รับผลประโยชน์จากสงครามและความขัดแย้งมาโดยตลอด การใช้จ่ายทางทหารถูกใช้ไปกับเชื้อเพลิง อาวุธ และการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ เมื่อมีส  ครามเกิดขึ้น มูลค่าหุ้นก็เพิ่มขึ้นตาม แต่ในทางกลับกัน เมื่อมีการเจรจาเพื่อสันติภาพ ทำให้มูลค่าลดลง   สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นขณะนี้ ทรัมป์ต้องการที่จะลดบทบาททางทหารและหันมาให้ความสำคัญกับการเจรจาทางการทูตแทน ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความวิตกกังวลและเทขายหุ้นของอุตสาหกรรมนี้   ทรัมป์กำลังเปลี่ยนแปลงอะไร?   ทรัมป์ประกาศชัดเจนว่าไม่มีสงครามที่ไม่มีวันจบสิ้นน หรือ No more endless wars นั่นหมายความว่าสหรัฐจะถอนกำลังทหารออกจากจุดต่างๆทั่วโลก ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ   สำหรับบริษัทด้านการป้องกันประเทศอาจตกอยู่ที่นั่งลำบาก เพราะการทำสัญญากับรัฐบาลอาจลดลง การซื้อขายอาวุธระหว่างประเทศอาจชะลอตัวลง ทำให้นักลงทุนมองเห็นถึงความเสี่ยงและทะยอยขายหุ้นออกไป   หุ้นสหรัฐ vs. หุ้นยุโรป ใครได้รับผลกระทบมากกว่ากัน?  เริ่มจากวิเคราะห์ผลประกอบการของหุ้นป้องกันประเทศของสหรัฐ จะเห็นว่ากำลังอยู่ในจุดขาลง   ตลอดเดือนที่ผ่านมา:  หุ้น  ผลประกอบการ  Lockheed Martin (LMT)                 -11.74%  Northrop Grumman: (NOC)  […]

article-thumbnail

2025-02-14 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

DeepSeek AI: ผู้มาใหม่ที่สั่นสะเทือนวงการ 

DeepSeek ไม่เพียงแต่ดึงดูดความสนใจจากวงการเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงนักลงทุนและรัฐบาลอีกด้วย ซึ่งทำให้เกิดคำถามสำคัญเกี่ยวกับอนาคตของตลาด AI ทั่วโลก