สรุปข่าวการเงินและการลงทุนประจำวันจัทร์ ที่ 18 เมษายน 2565

2022-04-18 | Current Affairs ,สรุปข่าวสารการลงทุนประจำวัน

สรุปข่าวการเงินและการลงทุน

ปัจจัยที่ต้องจับตามมองในรอบสัปดาห์: ข้อมูลเศรษฐกิจ ราคาน้ำมัน การรับมือของยุโรป

ฤดูกาลประกาศผลประกอบการกำลังมาถึงในสัปดาห์นี้ แต่ความกังวลเรื่องเงินเฟ้อที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ธนาคารกลางสหรัฐที่จุดยืนแข็งกร้าว และความไม่แน่นอนที่เกิดจากสงครามในยูเครนดูเหมือนจะยังคงปกคลุมความเชื่อมั่นของตลาดต่อไป นักลงทุนจะจับตาดูคำพูดของประธานเฟดเจอโรม พาวเวลล์อย่างใกล้ชิดในวันพฤหัสบดี ซึ่งเป็นการปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนครั้งสุดท้ายก่อนการประชุมของเฟดในเดือนพฤษภาคม ในขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันจะยังคงอยู่ในความสนใจท่ามกลางรายงานที่ระบุว่าสหภาพยุโรปกำลังพิจารณาการห้ามนำเข้าน้ำมันของรัสเซียแบบค่อยเป็นค่อยไป นี่คือ 5 สิ่งที่คุณต้องรู้เพื่อเริ่มต้นสัปดาห์

พาวเวลล์แถลง
ประธานเฟดเจอโรม พาวเวลล์ จะพูดในการประชุมฤดูใบไม้ผลิของกองทุนการเงินระหว่างประเทศในวันพฤหัสบดีและต่อมาในวันที่เขาจะมีส่วนร่วมในการอภิปรายเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกพร้อมกับ นางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป และผู้กำหนดนโยบายธนาคารกลางอื่นๆ โดยเฟดปรับขึ้นอัตราร้อยละสี่ในการประชุมเดือนมีนาคมและตั้งแต่นั้นมาก็มีการเคลื่อนไหวอีกครึ่งจุดในเดือนพฤษภาคม

นักวิเคราะห์และนักลงทุนใน Wall Street หลายคนเชื่อว่าเฟดไม่ได้เคลื่อนไหวเร็วพอที่จะต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อที่สูง และขณะนี้กำลังคาดการณ์ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเชิงรุกมากขึ้นในขณะที่ธนาคารกลางตามทัน ข้อมูลสัปดาห์ที่แล้วแสดงราคาผู้บริโภค พุ่งขึ้น 8.5% ในเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้นเร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 1981 เจ้าหน้าที่เฟดคนอื่น ๆ อีกหลายคนมีกำหนดจะปรากฏตัวในสัปดาห์นี้ เช่น ประธานเฟดแห่งเซนต์หลุยส์ เจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดประจำชิคาโก ชาร์ลส์ อีแวนส์ และเฟดซานฟรานซิสโก ประธานาธิบดีแมรี ดาลี่

ฤดูประกาศผลประกอบการ
ด้วยฤดูกาลแห่งผลประกอบการที่หนาแน่นขึ้น หุ้นบลูชิปหลายตัวในดัชนีดาวโจนส์มีกำหนดจะรายงานในสัปดาห์ที่กำลังจะถึงนี้ ซึ่งรวมถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการดูแลสุขภาพ Johnson & Johnson (NYSE:JNJ) ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจหลักที่แข็งแกร่ง Procter & Gamble (NYSE:PG), IBM (NYSE:IBM) และ {{erl- 8182||American Express}} (NYSE:AXP) นอกจากนี้ นักลงทุนยังจะได้เห็นรายได้จากสตรีมมิ่งยักษ์ใหญ่ Netflix (NASDAQ:NFLX) หลังปิดตลาดในวันอังคารและผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า Tesla ( NASDAQ:TSLA) ในวันพุธเช่นกัน

ผลประกอบการของธนาคารคาดว่าจะดำเนินต่อไปในวันจันทร์ด้วยทั้ง Bank of America (NYSE:BAC) และ Bank of New York Mellon (NYSE: BK) สัญญาณว่ากำไรของบริษัทในสหรัฐฯ คาดว่าจะแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ในปีนี้ อาจหนุนกรณีภาคตลาดอื่น ๆ รวมถึงธนาคาร บริษัทท่องเที่ยว หรือบริษัทอื่น ๆ ได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจที่กำลังเติบโต และหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ทำให้หุ้นสูงขึ้นสำหรับคนส่วนใหญ่ในทศวรรษที่ผ่านมา

ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ
ปฏิทินเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ค่อนข้างจะสดใสในสัปดาห์หน้า โดยมีประกาศรายการเกี่ยวกับตลาดที่อยู่อาศัย ข้อมูลเกี่ยวกับ ที่อยู่อาศัยเริ่มต้น และ รายงานจำนวนใบอนุญาตก่อสร้าง จะครบกำหนดในวันอังคาร ตามด้วยการอัปเดตใน ยอดขายบ้านมือสอง ในวันพุธ

ข้อมูลที่อยู่อาศัยจะได้รับการจับตาอย่างใกล้ชิดกับอัตราการจำนองของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเพื่อตอบสนองต่ออัตราดอกเบี้ยในตลาดที่สูงขึ้น รายงานประจำสัปดาห์เกี่ยวกับ การเรียกร้องสวัสดิการว่างงานครั้งแรก จะออกในวันพฤหัสบดี พร้อมกับ ดัชนีการผลิตของเฟดในฟิลาเดลเฟีย ข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมภาค การผลิต และ ภาคบริการ จะครบกำหนดในวันศุกร์

ราคาน้ำมัน
ราคาน้ำมัน ปรับตัวสูงขึ้นก่อนช่วงสุดสัปดาห์อีสเตอร์ในวันพฤหัสบดี โดยมีข่าวว่าสหภาพยุโรปอาจเลิกใช้การนำเข้าน้ำมันของรัสเซียซึ่งเป็นปัจจัยหนุนราคา แนวทางแบบค่อยเป็นค่อยไปได้รับการออกแบบมาเพื่อให้เยอรมนีและประเทศอื่น ๆ มีเวลาในการจัดหาซัพพลายเออร์ทางเลือก

การห้ามของสหภาพยุโรปที่เสนอจะมีขึ้นเพื่อการอภิปรายหลังจากรอบสุดท้ายของการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสในวันที่ 24 เมษายน เพื่อหลีกเลี่ยงการทำลายโอกาสของประธานาธิบดี แอมานุแอล มาครง ในการเลือกตั้งใหม่ โดยสหภาพยุโรปได้ดำเนินการคว่ำบาตรที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ต่อรัสเซียมาแล้ว 5 รอบ นับตั้งแต่การรุกรานยูเครน แต่อยู่ภายใต้แรงกดดันจากพันธมิตรให้ทำมากกว่านี้ อย่างไรก็ตาม กลุ่มนี้ไม่พร้อมที่จะรับมือกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการห้ามนำเข้าน้ำมันจากซัพพลายเออร์รายใหญ่ที่สุด

ข้อมูลเศรษฐกิจ
จีนจะเปิดเผยข้อมูล GDP สำหรับไตรมาสแรก ในวันจันทร์นี้ แต่นักลงทุนน่าจะให้ความสำคัญกับตัวเลขเดือนมีนาคมใน ยอดค้าปลีก, การลงทุนในสินทรัพย์คงที่ของจีน (Fixed Asset Investment) และ การผลิตเชิงอุตสาหกรรม สำหรับมุมมองที่เป็นปัจจุบันมากขึ้นว่าการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมโควิดส่งผลกระทบต่อพื้นที่เศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกอย่างไร

ยูโรโซนจะเผยแพร่ตัวเลข เงินเฟ้อ สุดท้ายสำหรับเดือนมีนาคมในวันพฤหัสบดี ซึ่งคาดว่าจะยืนยันว่าราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 7.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นเร็วที่สุดเป็นประวัติการณ์ ข้อมูล การผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือนกุมภาพันธ์ในวันพุธคาดว่าจะแสดงการเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยยูโรโซนและสหราชอาณาจักร มีกำหนดจะเปิดเผยข้อมูล PMI ในวันศุกร์ ซึ่งอาจเริ่มแสดงผลกระทบทางเศรษฐกิจบางส่วนจากสงครามในยูเครน ในวันเดียวกับที่สหราชอาณาจักรจะเผยแพร่ข้อมูลเดือนมีนาคมเกี่ยวกับ ยอดค้าปลีก ซึ่งคาดว่าจะลดลงเป็นเดือนที่สอง

อ้างอิง: th.investing.com/

ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิปิดร่วง 293.48 จุด เงินเยนร่วงต่ำสุดในรอบ 20 ปีฉุดตลาด

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลงในวันนี้ โดยบรรยากาศการซื้อขายได้รับผลกระทบจากเงินเยนที่ทรุดตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 20 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งสัญญาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้น สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 26,799.71 จุด ร่วงลง 293.48 จุด หรือ -1.08%

หุ้นที่ปรับตัวลงในวันนี้นำโดยหุ้นกลุ่มบริการ, กลุ่มเภสัชภัณฑ์ และกลุ่มอาหาร นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้แถลงในการประชุมรัฐสภาญี่ปุ่นในวันนี้ว่า เงินเยนได้ทรุดตัวลงอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ และเตือนว่าอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่น โดยถ้อยแถลงดังกล่าวของนายคุโรดะมีขึ้นหลังจากค่าเงินเยนร่วงแตะกรอบบน 126 เยนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 20 ปี
นายคุโรดะกล่าวว่า เขาไม่ได้เปลี่ยนแปลงมุมมองของ BOJ ที่ว่า เงินเยนที่อ่อนค่าเป็นปัจจัยบวกต่อภาพรวมเศรษฐกิจของญี่ปุ่น แต่เขาเตือนว่า เงินเยนที่อ่อนค่าลงจากระดับ 115 เยนต่อดอลลาร์ มาอยู่ที่ระดับ 127 เยนต่อดอลลาร์ในระยะเวลาเพียง 1 เดือนครึ่งนั้น ถือเป็นการทรุดตัวลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจเป็นปัจจัยลบต่อเศรษฐกิจ อีกทั้งสร้างความไม่แน่นอนและส่งผลให้บริษัทเอกชนประสบกับความยากลำบากในการทำแผนธุรกิจของตน

อ้างอิง: www.ryt9.com/

ราคาทองคำพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน สงครามยูเครนยังไม่จบ

วิกฤตการณ์สงครามในยูเครนส่งผลให้ความเชื่อมั่นลดลงเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้น ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในวันจันทร์นับตั้งแต่เดือนมีนาคม และยังทำให้นักลงทุนย้ายไปตลาดสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น

  • ราคาสปอตทองคำ เพิ่มขึ้น 0.8% ที่ 1,989.65 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ เวลา 07.23 GMT ซึ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำ เพิ่มขึ้น 0.9% ที่ 1,993.40 ดอลลาร์
  • สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.7% เป็น 25.85 ดอลลาร์ต่อออนซ์
  • ราคาสปอตเงิน เพิ่มขึ้น 1.7% เป็น 1,006.27 ดอลลาร์ และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าพาลาเดียมเพิ่มขึ้น 1.4% เป็น 2,400.60 ดอลลาร์

เจ้าหน้าที่ของยูเครนกล่าวว่าขีปนาวุธได้โจมตีเมืองลวิฟในช่วงต้นของวันจันทร์และเพิ่มความสั่นคลอนให้กับเมืองอื่น ๆ เนื่องจากกองกำลังรัสเซียได้ประกาศว่าใกล้จะเข้ายึดท่าเรือทางยุทธศาสตร์ทางใต้ของเมืองมาริอูโปลได้แล้ว

ทองคำแท่งถือเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าและปลอดภัยในช่วงที่มีวิกฤตทางการเมืองและเศรษฐกิจ ในขณะที่ทองคำเข้าทดสอบจุด 2,000 ดอลลาร์ที่ซึ่งมีแนวโน้มว่ามีแนวต้านน้อยที่สุด แต่ 2,100 ดอลลาร์นั้นเป็นจุดที่ใหญ่กว่าซึ่งนาจับตามอง ที่อาจจะทำให้เกิดกำไรระยะยาว ราคาทองคำส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2018

นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจากรอยเตอร์ส ระบุว่า ราคาทองคำอาจพุ่งขึ้นสู่ช่วง 1,998 ถึง 2,012 ดอลลาร์ เนื่องจากทะลุแนวต้านที่ 1,984 ดอลลาร์ต่อออนซ์แล้ว

เศรษฐกิจจีนชะลอตัวในเดือนมีนาคม เนื่องจากการบริโภค ภาคอสังหาริมทรัพย์และการส่งออกได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก และยังได้รับผลกระทบซ้ำเติมจากควบคุมการแพร่ระบาดระรอกใหม่ของโควิด19 รวมถึงสงครามในยูเครน เหตุการณ์เหล่านี้ทำให้ตัวเลขการเติบโตในไตรมาสแรกนั้นร่วงลงไปอีก ตามการรายงานของรอยเตอร์ส

อ้างอิง: th.investing.com/

ราคาน้ำมันแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ จากความรุนแรงในยูเครน

ในวันนี้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเกือบ 3 สัปดาห์ ผลจากความกลัวว่าอุปทานของโลกจะเกิดการชะงักมากขึ้นเหตุจากความขัดแย้งในยูเครนมีความรุนแรงมากขึ้น และยังมีข่าวว่าอาจจะมีการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติมจากประเทศตะวันตก

  • สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ เพิ่มขึ้น 1.09 ดอลลาร์หรือ 1.0% ที่ 112.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ณ เวลา 04.45 GMT หลังจากแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคมที่ 113.80 ดอลลาร์ก่อนหน้านี้
  • สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 1.00 ดอลลาร์ หรือ 0.9% สู่ 107.95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยเพิ่มขึ้นสูงสุดที่ 108.55 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม

โดยน้ำมันดิบทั้งสองได้ปรับตัวขึ้นมากกว่า 2.5% ในวันพฤหัสบดีก่อนหยุดอีสเตอร์ เนื่องจากมีข่าวเรื่อง EU อาจจะห้ามใช้น้ำมันจากรัสเซีย แม้ EU จะกล่าวว่ากำลังอยู่ในขั้นตอนการร่างมาตรการที่จะคว่ำบาตรเรื่องพลังงาน แต่ฝั่งเยอรมนีไม่ได้ให้การสนับสนุนในทันที

ความคิดเห็นเกิดขึ้นก่นอที่สถานการณ์ในยูเครนจะตึงเครียดและมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น โดยทหารยูเครนปฏิเสธที่จะถอยในเมืองมาริอูโปล ส่งผลให้ท่าเรือมีความเสียหายเป็นอย่างมาก รัสเซียเรียกปฏิบัติการการเข้ายึดยูเครนว่าเป็น “ปฏิบัติการพิเศษ” และกล่าวว่ากองกำลังรัสเซียยึดได้หลายเมืองในยูเครนแล้ว

สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศได้กล่าวเตือนว่าการคว่ำบาตรหรือการหลีกเลี่ยงการซื้อน้ำมันจากรัสเซียจะส่งผลให้น้ำมันของรัสเซียที่ผลิตได้ 3 ล้านบาร์เรลต่อวันนั้นไม่ถูกส่งออกนอกประเทศในเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป ตามการรายงานข่าวของรอยเตอร์ส

โดยตัวเลขการผลิตน้ำมันของรัสเซียได้ลดลงอย่างต่อเนื่องในเดือนเมษายน โดยในครึ่งเดือนแรกของเดือนรวมเดือนมีนาคมลดลง 7.5% สำนักข่าว Interfax รายงานเมื่อวันศุกร์

องค์กรของประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน OPEC และ OPEC+ ที่รวมถึงประเทศรัสเซีย ได้ปฏิเสธการเพิ่มผลผลิตตามคำร้องของตะวันตก

รายงานของโอเปกเมื่อสัปดาห์ที่แล้วแสดงให้เห็นว่าผลผลิตของโอเปกในเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้นเพียง 57,000 บาร์เรลต่อวันเป็น 28.56 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยผลิตน้อยกว่าเป้าหมายที่ตั้งภายใต้ข้อตกลง OPEC+ ไว้ 253,000 บาร์เรลต่อวัน

ความตึงตัวของตลาดพลังงานยังเพิ่มขึ้นเมื่อลิเบียได้ระงับการผลิตน้ำมันจากแหล่ง El Feel ในวันอาทิตย์ แหล่งข่าวแจ้งว่าการส่งออกถูกระงับเนื่องจากกลุ่มผู้สนับสนุนนายกรัฐมนตรี Abdulhamid al-Dbeibah ได้เข้ายึดพื้นที่ดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางราคาน้ำมันที่สูงขึ้น มีการคาดการณ์ว่าผลผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นแม้จะมีข้อจำกัดด้านแรงงานและแหล่งพลังงาน

อ้างอิง: th.investing.com/

IconBrandElement

IconBrandElement