ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (27 เม.ย.) ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดของบริษัทไมโครซอฟท์และวีซ่า อย่างไรก็ดี บรรยากาศการซื้อขายในตลาดยังคงถูกกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกและการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,301.93 จุด เพิ่มขึ้น 61.75 จุด หรือ +0.19%
— GfK ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยตลาดของเยอรมนีเปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีคาดการณ์ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเยอรมนีสำหรับเดือนพ.ค.ดิ่งลง 10.8 จุด สู่ระดับ -26.5 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
ดัชนีคาดการณ์ความเชื่อมั่นได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการทำสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน และเงินเฟ้อที่พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี
— สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 692,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรล
สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 4.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
— นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลินกล่าวว่า รัสเซียจะกลับมาส่งออกก๊าซธรรมชาติให้แก่โปแลนด์และบัลแกเรีย หากทั้งสองประเทศจ่ายค่าก๊าซเป็นเงินสกุลรูเบิลตามที่ระบุไว้ในสัญญา
“การชำระเงินตามที่ระบุไว้ในสัญญาจะถือเป็นหลักการพื้นฐานที่จะทำให้มีการส่งมอบก๊าซธรรมชาติ”
นายเพสคอฟกล่าว
— ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่เปิดเผยในวันนี้ เกาหลีใต้มีกำหนดเปิดเผยความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือนเม.ย., ญี่ปุ่นจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนมี.ค. และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย, อียูมีกำหนดเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย. และสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2565 (ประมาณการเบื้องต้น)
อ้างอิง อินท์โฟดควสท์