ภาวะถดถอยIconBrandElement

article-thumbnail

2024-03-29 | สารจาก Doo Prime

วิเคราะห์ที่มาและผลกระทบ ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นขึ้นดอกเบี้ยในรอบ 17 ปี

ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นได้ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 17 ปี ซึ่งส่งสัญญาณการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในนโยบายการเงิน การตัดสินใจครั้งนี้มีผลกระทบในวงกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อตลาดหุ้น Nikkei ของญี่ปุ่น และมูลค่าของเงินเยน  ตามที่ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น คาซูโอะ อูเอดะระบุว่า การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่แนวโน้มเศรษฐกิจเชิงบวกกำลังเกิดขึ้น พร้อมกับสัญญาณการเพิ่มขึ้นของค่าจ้างและราคา  การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นไม่เพียงแต่ยุติยุคของอัตราดอกเบี้ยติดลบและนโยบาย Yield Curve Control ที่บังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2007 เท่านั้น แต่ยังตอกย้ำความมุ่งมั่นของญี่ปุ่นในการบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% อีกด้วย  บทความนี้จะเจาะลึกความเป็นมาของนโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบของญี่ปุ่น รวมถึงวิเคราะห์แนวโน้มที่ผิดปกติในตลาดหุ้นและตลาดสกุลเงินของญี่ปุ่นหลังจากที่ยกเลิกอัตราดอกเบี้ยติดลบ และนำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความเป็นไปได้หลังจากนี้  ทำความเข้าใจนโยบายการเงิน: จากอัตราดอกเบี้ยติดลบไปเป็นบวก  การตัดสินใจของญี่ปุ่นในการดำเนินการและยุติอัตราดอกเบี้ยติดลบเกิดจากความท้าทายทางเศรษฐกิจที่ยืดเยื้อมานาน โดยมีลักษณะการเติบโตที่ซบเซา การว่างงานที่เพิ่มขึ้น และความกดดันจากภาวะเงินฝืด  เพื่อกระตุ้นการเติบโต ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นได้ใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษในปี 2016 โดยลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานลงเหลือ -0.1%    อย่างไรก็ตาม ในเดือนมีนาคมของปีนี้ ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นได้ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยพื้นฐาน 10 จุด ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ระดับ 0-0.1% และยุตินโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบอย่างมีประสิทธิภาพ  นอกจากนี้ ธนาคารได้ละทิ้งนโยบาย Yield Curve Control (YCC) ซึ่งมุ่งหวังให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวอยู่ที่ประมาณ 0% และลดการซื้อสินทรัพย์เสี่ยง […]

article-thumbnail

2024-02-15 | สารจาก Doo Prime

3 สัญญาณที่ต้องจับตามองสำหรับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปี 2024

จากแรงขายของกลุ่ม Tech Giants ไม่ได้แสดงถึงสัญญาณของการชะลอตัว ซึ่งท้าทายแรงตลาดหมีและความคาดหวังของนักลงทุน  อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญบางคนเตือนว่าความ “เสี่ยง” นี้จะนำไปสู่การปรับฐานของตลาดได้ หลายๆ คนเตือนว่า “ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ในปี 2024” อาจเกิดขึ้นได้เร็วๆ นี้  แต่ความกลัวเหล่านี้มีมากเกินไปหรือมีสัญญาณเตือนที่เราควรระวังหรือไม่?  บทความนี้เจาะลึกถึงตัวบ่งชี้หลัก 3 ประการที่อาจส่งสัญญาณถึงภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปี 2024 โดยทำให้เรามองข้ามหัวข้อข่าวและตั้งคำถามว่า เรากำลังเข้าสู่ภาวะถดถอยในปี 2024 หรือไม่?  มุมมองของเฟด ปี 2024 ไม่เกิดภาวะถดถอย เฟดกำลังมองว่าเศรษฐกิจกำลังไปได้ดีและได้กล่าวว่า “จะไม่มีเศรษฐกิจถดถอย” ในปี 2567 โดยชี้ให้เห็นถึงเหตุผลสองประการ: อัตราการจ้างงานที่สูงและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง  มันสมเหตุสมผลแล้วใช่ไหม? เพราะท้ายที่สุดแล้ว เศรษฐกิจเติบโตอย่างมากที่ 4.9% ในไตรมาสที่แล้ว และคาดว่าจะยังคงโตแข็งแกร่งที่ 3.3% ในไตรมาสปัจจุบัน นอกจากนี้ รายงานการจ้างงานในเดือนมกราคมยังคงโดดเด่น ทำให้มีงานเพิ่มขึ้นมากกว่าที่ใครๆ คาดการณ์ไว้ เศรษฐกิจจะกลับมาดีแล้วใช่ไหม?  อาจจะไม่ใช่เช่นนั้นเพราะทุกเรื่องราวมักมีสองด้าน  แม้ว่า Fed อาจมีทัศนคติเชิงบวกอย่างมากเกี่ยวกับอนาคตของเศรษฐกิจ แต่ตัวชี้วัดอื่นๆ เช่น Inverted Yield […]

article-thumbnail

2023-10-06 | สารจาก Doo Prime

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้น สัญญาณเตือนต่อเศรษฐกิจโลก

ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าพร้อมกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นนั้นไม่ใช่ข่าวที่ดีนักกับเศรษฐกิจโลก  ในช่วงนี้ ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่ามาก โดยแตะระดับสูงสุดในรอบหลายปีเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักและสกุลเงินของตลาดเกิดใหม่ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อยู่ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2007 ซึ่งทำให้นักลงทุนบางรายกังวลว่าจะเกิดวิกฤติการเงินในปี 2008 อีกครั้งหรือไม่ ปัจจัยเหล่านี้เป็นสัญญาณเตือนที่นักลงทุนอย่างเราไม่ควรมองข้าม เนื่องจากสิ่งเหล่านี้สะท้อนถึงสถานะปัจจุบันของเศรษฐกิจสหรัฐฯ อีกทั้งยังสะท้อนถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจโลกด้วย  ในบทความนี้ เราจะเจาะลึกถึงสาเหตุที่ทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า วิเคราะห์ผลกระทบของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่เพิ่มขึ้น และอภิปรายถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจโลก  ดอลลาร์สหรัฐหรือยูโรจะถูกลดบทบาทและอำนาจลงหรือไม่  จากข้อมูลการชำระเงินระหว่างประเทศของ SWIFT เราจะเห็นได้ว่ายูโรถูดลดอำนาจในการชำระเงินทั่วโลกลง ซึ่งไม่ได้เกิดกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ   ส่วนแบ่งของเงินยูโรในการชำระเงิน SWIFT ทั่วโลกลดลงจาก 38% เมื่อต้นปีเป็น 23% ในเดือนสิงหาคม สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่า SPFS ของรัสเซีย (ระบบสำหรับการโอนข้อความทางการเงิน) และ CIPS ของจีน (ระบบการชำระเงินระหว่างธนาคารข้ามพรมแดน) อาจกินส่วนแบ่งการตลาดของเงินยูโร ในทางกลับกัน ส่วนแบ่งการชำระเงิน SWIFT ของจีนแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3.47% ในเดือนสิงหาคม  นอกจากนี้ยังมีเปอร์เซ็นต์ส่วนแบ่งของดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันนั้นด้วย สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าส่วนแบ่งการตลาดส่วนใหญ่ที่ลดลงนั้น เงินดอลลาร์สหรัฐเป็นผู้ครองไปแทน อาจเป็นเพราะขณะนี้ยุโรปชำระค่าน้ำมันดิบและก๊าซเป็นดอลลาร์สหรัฐแทนเงินยูโร  เนื่องจากน้ำมันพุ่งขึ้นมากกว่า 25% ในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา แรงกดดันจึงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง  อ่านบทความของเราเกี่ยวกับปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันดิบพุ่งสูงขึ้นในเร็วๆ นี้ น้ำมันพุ่งขึ้น […]

article-thumbnail

2023-05-25 | สารจาก Doo Prime

คว้าโอกาสหุ้น Growth Stock ในช่วงภาวะถดถอย

อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกที่สูงขึ้นและวิกฤตเพดานหนี้สหรัฐฯ เข้าใกล้วันครบกำหนดชำระหนี้ (1 มิถุนายน 2023) ปัจจัยเหล่านี้ทำให้ปัญหาภาวะถดถอยทั่วโลกนั้นดูจะชัดเจนขึ้นไปอีก ซึ่งในภาวะเช่นนี้ทำให้นักลงทุนต้องเผชิญกับความยากลำบากในการหากลยุทธ์เพื่อเดินนำหน้าตลาดและทำผลตอบแทนที่คาดหวังไว้ เราจำเป็นต้องวางแผนอย่างชาญฉลาดเพื่อรับมือความผันผวนของตลาดและหาเส้นทางเพื่อให้พอร์ตเติบโต โชคดีที่ยังมีกลยุทธ์ที่ช่วยให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้และช่วยปรับพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมด้วย  วิธีการที่ได้รับความสนใจอย่างมากคือ การลงทุนใน “หุ้นเติบโต” หรือที่เรียกว่า “Growth Stock” โดยหุ้นเหล่านี้เป็นตัวแทนของบริษัทที่มีรายรับและกำไรที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างโดดเด่น ในช่วงภาวะถดถอยเช่นนี้ การลงทุนในหุ้นเติบโตเป็นการเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถลงทุนกับบริษัทที่ทนสภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ได้ และเป็นบริษัทที่มีแนวโน้มที่จะทำได้ดีกว่าตลาดอื่นๆ  บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาข้อดีในการลงทุนในหุ้นเติบโตในช่วงเวลาที่มีแต่ความผันผวนช่วงนี้ นอกจากนี้ บทความยังมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับโอกาสในการลงทุน ทำให้นักลงทุนสามารถเตรียมพร้อมเพื่อการเติบโตในสภาวะตลาดที่ผันผวนและตัดสินใจลงทุนได้อย่างชาญฉลาด  สำรวจหุ้น Growth Stock  ในช่วงภาวะถดถอย อุตสาหกรรมบางภาคส่วนมีผลประกอบการที่ดีกว่าตลาดโดยรวม ตัวอย่างเช่น การให้บริการสุขภาพ (Healthcare) สาธารณูปโภค (Utilities) สินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต (Consumer Staples) บริษัทเหล่านี้มักมีผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ยังคงเป็นที่ต้องการสูงแม้จะเป็นช่วงภาวะถดถอยก็ตาม  แม้ว่าอุตสาหกรรมเหล่านี้อาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำ แต่หุ้นเติบโตโดยทั่วไปถือเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง  การลงทุนแต่ละประเภทขึ้นอยู่กับเป้าหมายการลงทุนและความเสี่ยงที่นักลงทุนแต่ละคนยอมรับได้ หากเป้าหมายของคุณคือการได้รับผลตอบแทนสูง หุ้นเติบโตอาจเป็นคำตอบให้คุณได้ ในทางกลับกัน หากคุณชอบวิธีแบบระมัดระวัง หุ้นคุณค่า (Value Stock) หรือหุ้นปันผล (Dividend Stock) อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกับคุณ   ตารางต่อไปนี้ระบุความแตกต่างระหว่างหุ้นเติบโต หุ้นคุณค่า และหุ้นปันผล  ประโยชน์ของหุ้นเติบโตในช่วงภาวะถดถอย  เมื่ออัตราการเติบโตของเศรษฐกิจต่ำกว่ามาตรฐาน นักลงทุนมักจะหันไปสนใจหุ้นเติบโต […]

article-thumbnail

2023-05-19 | สารจาก Doo Prime

จุดเปลี่ยนทางเศรษฐกิจ: เศรษฐกิจโลกกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอยหรือไม่

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจโลกต้องเผชิญกับปัญหาความไม่แน่นอนมากมาย การระบาดของโรคโควิด-19 ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ความขัดแย้งอย่างสงครามรัสเซีย-ยูเครน และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดก่อให้เกิดความกังวลต่อการเกิดภาวะถดถอยทั่วโลก  เหตุการณ์เหล่านี้ทำให้ตลาดเกิดความวิตกกังวล ส่งให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลงและก่อให้เกิดปัญหาต่อการขยายธุรกิจ รวมถึงปัญหาต่างๆ เช่น การหยุดการผลิต และการล้มละลายก็เกิดขึ้นได้เช่นกัน นอกจากนี้ ระดับหนี้ทั่วโลกที่สูงและแรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังคงเป็นความเสี่ยงต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ และเมื่อเร็วๆ นี้ แม้แต่ อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ผู้ที่ร่ำรวยที่สุดคนหนึ่งในโลกยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยแบบอ่อนในช่องทางโซเชียลมีเดียของตนเองอีกด้วย  ปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวได้แทรกซึมไปทั่วทุกมุมโลก จึงทำให้เกิดคำถามขึ้นว่า โลกไม่สามารถหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยครั้งใหญ่นี้ได้ใช่หรือไม่ นอกจากนี้ ท่ามกลางภาวะถดถอยเช่นนี้ นักลงทุนควรปรับกลยุทธ์อย่างไร บทความนี้มีจะตอบคำถามเหล่านี้และให้ข้อมูลสำหรับนักลงทุนในการเผชิญแรงกดดันจากภาวะถดถอย  การคาดการณ์ของสถาบันต่างๆ: เศรษฐกิจดูท่าจะย่ำแย่ ในช่วงต้นเดือนเมษายนของปีนี้ ธนาคารโลกประเมินว่าการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ GDP ทั่วโลกจะลดลงต่ำกว่า 2% ในปีนี้ และจะเพิ่มขึ้นเป็น 3% ในปี 2024 และจากนั้นจะชะลอตัวลงเหลือ 2.2% ในปี 2030 ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอัตราการเติบโต 3.5% ในทศวรรษแรกของศตวรรษนี้  ในทำนองเดียวกัน กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เตือนใน World […]